วันที่ 14 กันยายน 2563 ปีนี้มีความหมายสำคัญ ตรงกับวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ครบรอบปีที่ 453 นับแต่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมาตามหาพี่ชาย ที่เมืองกรือเซะ ปัตตานี บรรดาศิษยานุศิษย์ และผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในเจ้าแม่ฯ ต่างมาร่วมงาน เพื่อขอพร และทำบุญเนื่องในวันเกิดเจ้าแม่ฯ ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง หรือ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี อย่างเนืองแน่นทุกปี

    เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ถือเป็นบรรพชนชาวปัตตานี มีความรักผูกพันกับเมืองปัตตานี และเป็นแบบอย่างของความกตัญญู เสียสละ และสัจจะวาจา เป็นความศรัทธาเลื่อมใสของลูกหลานชาวปัตตานี และชาวไทยเชื้อสายจีน ตลอดจนผู้ที่มีศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่ฯ

     ตามหลักแล้ววันเกิดของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวคือวันที่ 27 เดือน 7 ตามปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กันยายน 2563 ตามปฏิทินสากล ประเพณีการจัดงานวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มีมาช้านาน จุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ สร้างบุญสร้างกุศลร่วมกับเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวเพื่อความเป็นสิริมงคล สิ่งที่นำมาไหว้บูชาเจ้าแม่นั้น ล้วนแฝงไปด้วยความหมายและความเชื่อของชาวจีน เช่น ขนมลูกท้อ หรือ “สิ่วท้อ”เป็นซาลาเปาชนิดหนึ่งที่ปั้นเลียนแบบลูกท้อ ชาวจีนเชื่อว่า ผู้ใดที่ได้รับประทานจะอายุยืนยาวเพราะลูกท้อเป็นผลไม้สวรรค์ ส่วนเนื้อสัตว์อย่าง หัวหมู เป็ดและไก่ สื่อความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ ความเป็นสิริมงคล หมั่นโถวที่ทำจากหัวมันเนื้ออกสีเหลืองแต้มจุดแดงตรงกลาง คนจีนนิยมนำมาไหว้เพื่อให้ “เปาไช้” ซึ่งแปลว่าห่อโชค แม้แต่ผลไม้อย่าง องุ่น กล้วยหอม ส้ม แก้วมังกร แอปเปิ้ล ก็ยังแฝงความเชื่อเรื่อง ความเป็นสิริมงคล ความรุ่งเรืองของชีวิต ในหน้าที่การงาน สุขภาพ สินทรัพย์และบริวาร ของทั้งหมดที่นำมาไหว้ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องมีปริมาณที่มาก เพียงแต่ยึดถือตามกำลังทรัพย์ และจิตที่แน่วแน่บริสุทธิ์ก็จะทำให้สิ่งที่ขอพรสัมฤทธิ์ผลเช่นกัน

เรื่อง/ภาพ

ศิรัชญา ทองตรี

สถานีวิทยุ ม.อ.ปัตตานี

รายงาน